‘สมคิด’ แนะ สศช. ขับเคลื่อนกลยุทธ์ 7 ข้อ กระตุ้นจีดีพีประเทศ
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวระหว่างการตรวจเยี่ยมการทำงานของสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ว่าการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศในระยะต่อไป สศช.จะต้องมีบทบาทสำคัญในการชี้นำการทำงานของหน่วยงานราชการ รวมไปถึงมีบทบาทในการชี้นำไปถึงคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่าโครงการใดควรทำ โครงการใดไม่ควรทำ เพื่อให้หน่วยงานต่างๆเห็นทิศทางการพัฒนาประเทศด้วยกลยุทธ์ 7 ด้านสำคัญ ได้แก่ 1.สร้างความสมดุลทางเศรษฐกิจ 2.สร้างความเชื่อมโยงระหว่างการเกษตร อุตสาหกรรม และบริการ ชี้นำวิธีการให้กับหน่วยงานต่างๆว่าจะเพิ่มมูลค่าสินค้าได้อย่างไร 3.กระตุ้นให้เกิดการสร้างมูลค่าเพิ่มสินค้าและบริการในทุกขั้นตอนการผลิต ซึ่งต้องสร้างการสนับสนุนทั้งในเรื่องของเทคนิค การวิจัยและการพัฒนา (R&D) 4.นโยบายการศึกษา ต้องมุ่งไปสู่ทิศทางการสร้างบุคลากรที่สร้างแรงงานได้ตรงตามความต้องการของตลาด 5.นโยบายดิจิทัล ต้องมีแนวทางนโยบายที่ควรทำเกี่ยวกับการพัฒนาดิจิทัลของประเทศ 6.การพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษซึ่งต้องดูในเรื่องของการพัฒนาเชิงพื้นที่ การพัฒนาพื้นที่เมืองใหม่ การพัฒนาเมืองอัจฉริยะ และ 7.การพัฒนาตลาดเงินซึ่งเกี่ยวข้องกับภาคการเงินของประชาชนทั่วไป
ไชน่า เอนเนอร์ยี่ ควักพันล้านลงทุน พลังงานชีวภาพในอีอีซี
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 20 ก.พ. 2562 นายเฉิน จี้ปิง ประธานบริษัท ไชน่า เอนเนอร์ยี่ เอ็นจิเนียริ่งคอร์ปอเรชั่น หรือเอนเนอร์ยี่ ไชน่า รัฐวิสาหกิจพลังงานรายใหญ่ของประเทศจีนได้เข้ามาพบและหารือที่ทำเนียบรัฐบาล โดยได้กล่าวถึงความคืบหน้าธุรกิจในประเทศไทยที่บริษัทได้รับคัดเลือกจากบริษัท บีกริม เพาเวอร์ ในการร่วมลงทุนโรงไฟฟ้าไฮบริด สำหรับงานระบบไฟฟ้าและระบบน้ำเย็นในสนามบินอู่ตะเภา เฟส 1 มูลค่า 3,600 ล้านบาท ซึ่งล่าสุดโครงการอยู่ระหว่างการเจรจาเช่าที่ดินจากกองทัพเรือคาดว่าจะได้ข้อสรุปในเร็วๆ นี้ ทั้งนี้ ในการหารือได้เชิญชวนให้เอนเนอร์ยี่ ไชน่า เข้ามาลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายในพื้นที่อีอีซี โดยเฉพาะในด้านอุตสาหกรรมพลังงานชีวภาพ (Biofuels and biochemical industries) ซึ่งรัฐบาลกำหนดให้เป็น 1 ใน 12 กลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย ซึ่งบริษัทที่ลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมดังกล่าวจะได้รับสิทธิประโยชน์จากสำนักงานส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เช่น การอำนวยความสะดวกตรวจคนเข้าเมือง การถือครองที่ดิน และสิทธิประโยชน์เรื่องภาษี ปัจจุบันเอนเนอร์ยี่ ไชน่า มีบทบาทสำคัญในการผลิตไฟฟ้าในประเทศจีน เป็นรัฐวิสาหกิจที่ครองส่วนแบ่งการผลิตไฟฟ้า 70% และรัฐบาลจีนได้มอบหมายให้เป็นหน่วยงานที่ออกไปลงทุนด้านพลังงานในเส้นทางสายไหมใหม่ของจีน (One belt one road) โดยใช้เงินลงทุนไปแล้วกว่า 4.4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนในไทยคาดว่าจะใช้เงินลงทุนเบื้องต้นประมาณ 300 ล้านดอลลาร์ หรือ 9,300 ล้านบาท โดยจะลงทุนในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ในวงเงินประมาณ 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
บีทีเอสยังหวังส้มหล่น เจรจารถไฟความเร็วสูง เชื่อม 3 สนามบินต่อจากซีพี
นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือบีทีเอส กล่าวว่า กลุ่มกิจการร่วมค้าบีเอสอาร์ (BSR) พร้อมเข้าเจรจาต่อรองในโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน หลังจากคณะกรรมการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ขีดเส้นให้การเจรจากับกลุ่มบริษัท เจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) จบภายในวันที่ 22 ก.พ.นี้ และหากไม่ได้ข้อสรุปจะเรียกกลุ่มบีเอสอาร์มาเจรจาต่อไป โดยมั่นใจว่าทางกลุ่มมีข้อเสนอดีพอที่จะเอาชนะคู่แข่งในการช่วงชิงเมกะโปรเจกต์ดังกล่าวได้ ประกอบกับมีความร่วมมือกับบริษัทพาร์ทเนอร์ที่มีศักยภาพชั้นนำระดับโลก แม้ว่ากลุ่ม BSR จะเสนอขอให้รัฐสนับสนุนโครงการสูงกว่าคู่แข่งอยู่ 5.27 หมื่นล้านบาท แต่วงเงินดังกล่าวยังสามารถลดราคาลงได้อีกในขั้นตอนการเจรจาต่อรอง และจะไม่มีการยื่นข้อเสนอนอกกรอบเอกสารขอบเขตเงื่อนไขการประกวดราคา (TOR) ดังนั้นหากได้โอกาสเข้าเจรจากับรัฐบาล คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในเวลา 30 วัน หรือจบลงได้ภายในเดือนมี.ค. ซึ่งยังอยู่ในกำหนดเวลาเป้าหมายของรัฐบาล
ออนไลน์หนุนบริษัทตั้งใหม่ เดือนม.ค.พุ่ง 7.3 พันราย ทำสถิติสูงสุดนับจากปี 56
นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยการจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนบริษัทใหม่ทั่วประเทศในเดือนม.ค.2562 มีจำนวน 7,311 ราย เพิ่มขึ้น 78% เมื่อเทียบกับเดือนธ.ค.2561 ที่มีจำนวน 4,102 ราย และเพิ่มขึ้น 5% เมื่อเทียบกับเดือนม.ค.2561 ที่มีจำนวน 6,965 ราย ซึ่งยอดจัดตั้งใหม่ดังกล่าว เป็นการทำสถิติสูงสุดอีกครั้ง แต่ยังเป็นลำดับที่ 2 รองจากยอดตั้งใหม่สูงสุดที่เคยทำได้จำนวน 8,184 ราย ในเดือนม.ค.2556 โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการขยายตัวของเศรษฐกิจ การขยายตัวของโครงการลงทุนภาครัฐ การฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว ทำให้มีความมั่นใจในการลงทุนทำธุรกิจเพิ่มขึ้น สำหรับธุรกิจที่ตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไปยังคงเป็นอันดับ 1 มีจำนวน 620 ราย ตามด้วยธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 386 ราย ซึ่งยังคงขยายตัวตามการลงทุนและการเติบโตของเมือง และอันดับ 3 คือ ธุรกิจขนส่งและขนถ่ายสินค้า รวมถึงคนโดยสาร จำนวน 184 ราย เป็นการขยับขึ้นมาติดอันดับ 3 เป็นครั้งแรก แซงธุรกิจภัตตาคารและร้านอาหาร ซึ่งเติบโตตามการขยายตัวของการค้าออนไลน์
พาณิชย์ลงพื้นที่เชียงราย สร้างอัตลักษณ์ ‘ชาไทย’ ชิงตลาดโลก
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯร่วมกับสำนักงานพาณิชย์จังหวัดเชียงราย ลงพื้นที่พบเกษตรกรและผู้ประกอบการชาจังหวัดเชียงราย เพื่อให้ความรู้และแนะนำช่องทางการใช้ประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ที่ไทยทำกับประเทศคู่ค้า โดยเฉพาะเอฟทีเอที่ไทยทำกับอาเซียนและจีน ที่ประเทศคู่ค้าเหล่านี้ได้มีการลดภาษีศุลกากรให้กับสินค้าชาและผลิตภัณฑ์ชาจากไทยเหลือ 0% แล้ว ซึ่งช่วยเพิ่มแต้มต่อและโอกาสในการแข่งขันของชาไทย จากการลงพื้นที่พบว่าชาเชียงรายเป็นชาชนิดเดียวที่ได้ขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์(จีไอ)ในไทย แสดงถึงความพิเศษของชาที่ปลูกในพื้นที่นี้ที่มีสภาพดิน อากาศ ระดับความสูง ความลาดเอียงของพื้นที่ ตลอดจนกระบวนการผลิตที่ส่งผลให้ได้ชาที่มีความพิเศษแตกต่างจากชาที่ผลิตจากแหล่งอื่นๆในโลก ถือเป็นโอกาสร่วมกันสนับสนุนและประชาสัมพันธ์ความพิเศษดังกล่าวในตลาดต่างประเทศ ซึ่งผู้ประกอบการชาในพื้นที่ก็ให้การตอบรับและเห็นความสำคัญของการผลิตชาให้ได้คุณภาพ การเพิ่มมูลค่าให้กับใบชาในรูปแบบต่างๆ การสร้างเรื่องราวและอัตลักษณ์ให้กับชา การผสมใบชากับพืชสมุนไพรและพืชท้องถิ่น การทำชาออร์แกนิก และการเชื่อมโยงการผลิตชากับการท่องเที่ยว เป็นต้น
ส.อ.ท.มองปัจจัยลบ รอบด้านทำส่งออกปี 62 ไม่โตตามเป้าหมาย
นายเกรียงไกร เธียรนุกูล รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวถึงกรณีวันที่ 27 ก.พ. กระทรวงพาณิชย์เตรียมหารือภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องเพื่อผลักดันการส่งออกปี 2562 ให้เติบโต 8% ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ว่า ส.อ.ท.จะส่งตัวแทนเข้าหารือเพื่อที่จะร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์ผลักดันการส่งออกปี 2562 ให้เป็นไปตามเป้าหมาย ซึ่งยอมรับว่าเป็นเป้าหมายที่ท้าทายค่อนข้างมากเนื่องจากปี 2561 ปัจจัยต่างๆ ที่เอื้อต่อการส่งออกดีกว่าในปีนี้การส่งออกของไทยยังเติบโตได้เพียงระดับ 6.7% ต่ำกว่าเป้าที่ตั้งไว้ว่าจะโต 8% ดังนั้น ทั้งรัฐและเอกชนคงจะต้องร่วมมือกันใกล้ชิดในการเปิดตลาดใหม่ๆ และการดูแลเสถียรภาพค่าเงินบาทให้เหมาะสมต่อการแข่งขัน อย่างไรก็ตาม หากเทียบกับปีที่ผ่านมาปัจจัยปีนี้เอื้อน้อยกว่า ทั้งเศรษฐกิจโลกมีทิศทางชะลอตัว สงครามการค้าก็ยังคงอยู่ ขณะเดียวกันไทยมีการเลือกตั้งที่ยังต้องติดตามใกล้ชิด รวมไปถึงค่าเงินบาทที่ยังมีทิศทางแข็งค่าซึ่งมีการคำนวณว่าการแข็งค่าเงินบาททุก 1% จะกระทบต่อการส่งออก 0.14% ซึ่งพบว่าตั้งแต่ต้นปีจนถึงล่าสุดค่าเงินบาทแข็งค่าเกือบ 3% ย่อมกระทบต่อการส่งออกแน่นอน
มาแล้ว! ผู้ประกาศข่าวเอไอหญิง คนแรกของโลก
หลังจากได้มีการเปิดตัวผู้ประกาศข่าวหุ่นยนต์ หรือ ผู้ประกาศข่าวเอไอชายภาคภาษาอังกฤษ เป็นครั้งแรกของโลกเมื่อเดือน พ.ย.ปีที่ผ่านมา ล่าสุดสำนักข่าวซินหัวของจีนได้สร้างปรากฏการณ์ให้กับวงการอีกครั้ง ด้วยการเปิดตัวผู้ประกาศข่าวเอไอหญิงคนแรกของโลกชื่อว่า Xin Xiaomeng ถูกสร้างขึ้นโดยอาศัยความร่วมมือจากบริษัทด้านเสิร์ชเอนจินยักษ์ใหญ่ของจีนอย่าง Sogou ซึ่งเป็นรายเดียวกับที่สร้างนักข่าวเอไอชายรายแรกของโลก ผู้ประกาศข่าวหญิงเอไอรายนี้รับหน้าที่อ่านข่าวในภาคภาษาจีน โดยข่าวชิ้นแรกที่เธออ่านเป็นรายงานข่าวเกี่ยวกับการประชุมสภาประชาชนประจำปีนี้ ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงปักกิ่ง และเธอสามารถรายงานข่าวได้ตลอด 24 ชั่วโมงทั้งทางเว็บไซต์และบนโซเชียลมีเดียอื่นๆ ช่วยลดต้นทุนการนำเสนอข่าวพร้อมยกศักยภาพการรายงานข่าวให้ดียิ่งขึ้น
ที่มา: www.salika.co